สวัสดีครับเพื่อนๆ… วันนี้รับรู้ได้ถึงความเย็นของอากาศ นิโหน่ยยยย มองซ้ายมองขาว เอ้ย..ขวา (ชอบพิมพ์สลับกันประจำ) ต้องหาอะไรมาทำให้สาระร่างอุ่นขึ้นซัก 2-3 วืด (ข้ออ้างแหละ) เดินเข้าครัว อืมมม เหล้าบ๊วยที่หมักไว้เมื่อเดือนมีนา ยัง..ยังไม่ได้อ่ะ +0+ ถึงตามตำราจะบอกว่า 6เดือนขึ้นไป ก็เปิดได้ แต่แอดจะรอครบปีครับแล้วค่อยเปิด ยิ่งนับวันรอ..ยิ่งรู้สึกน้านนนนาน หันไปอีก อืมมม จะดีเหรอ เก็บมานานกว่าเหล้าอีกนะ ทำไมเหมือนโดนดึงดูด โอ้วววว … หมับคว้าเข้าให้ เปิดจุกไว้ก่อนให้น้องได้หายใจหายคอแพร้บนุง ระหว่างนั้นก็เดินคีบแก้วมาด้วย นั่งเช็คเมล์ไปพลางๆ
หันมองน้อง แล้วก็สังเกตว่าบนฉลาก หลายครั้งเลยที่มีคำว่า TERRIOR (แทฮวาค์ มีเสียงเหมือนจะขากเสลดที่ฮ.นกอูกนิโหน่ย) ถ้าเป็นเมื่อก่อนแอดอ่านเลย เทอรีออร์ 555555555 มารู้ว่าน่าจะไม่ใช่ เพราะเพื่อนที่เป็นอิตาลีที่เคยมาเที่ยวไทยมองหน้าแปลกๆ แล้วก็ออกเสียงให้ฟัง แต่ก็จำไม่ได้อยู่ดีว่าออกเสียงยังไง เพราะลำพัง แค่ภาษาอังกฤษสำเนียงอิตาเลี่ยนก็ลำบากมากแล้ว อ่ะ มาเข้าเรื่อง พอสงสัยก็หาข้อมูลเลยครับ ได้ความดังนี้
Terrior แปลได้ว่า A sense of place ถ้าเห็นชื่อนี้บนฉลาก เหมือนๆเป็นการการันตีว่า ไวน์ของเราเนี่ยยยย เป็นไวน์ที่มีลักษณะและรสชาติ ส่วนตั้วววส่วนตัว ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน อ้าว…ก็เห็นล้ายยยขวดก็มี มันไม่ได้เหมือนกันเราะ ไม่เหมือนครับ เพราะ terrior ของแต่ละขวด คือ การการันตี สภาพภูมิอากาศในแต่ละสถานที่ ที่ปลูกองุ่น ครับ โดยไร่ที่ทำการปลูกจะต้องมี อุณหภูมิ ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ และ องค์ประกอบของดิน ที่ดีและเหมาะสม เช่น
- ที่ตั้งของสถานที่ปลูก
- อุณหภูมิในรอบปี (ดูย้อนนนนกันไปพอควร และต้องคำนวณล่วงหน้าไปอีกพอควร)
- ดิน ประกอบด้วยดินชนิดไหนบ้าง(ขุดลึกที่สุด เพื่อจะดูว่ามีดินชนิดไหนในระดับความลึกไหน) สามารถเก็บน้ำหรืออุ้มน้ำไว้ได้ดีแค่ไหน
- ปริมาณของฝนในแต่ละปี
- แสงแดดที่ส่อง มาจากทางไหนทิศไหน
- ลม แรงของลม
- และ องุ่น พันธุ์ไหนที่เหมาะกับพื้นที่ของเรา เป็นต้น ละเอียดกันทุกขั้นตอน แต่เอ… คล้ายระบบการปลูกพืชแบบ ออร์แกนิก อยู่นะเนี่ย เยอะและใส่ใจไปซะทู้กกกกสิ่งอย่าง ต๊าชชชชชช!
หาข้อมูลถึงตรงนี้ อยากทำท่าแบบอาจารย์ เฉลิมชัย แล้วตะโกนว่า มันคือศิลปะ!
แต่เพื่อนๆรู้มั้ยครับว่า Terrior ก็มีในกาแฟ เหมือนกัน ซึ่ง terrior นี่เอง ที่ทำให้กาแฟมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ปลูก ต่อให้เป็นเมล็ดกาแฟสายพันธุ์เดียวกันแต่ปลูกในที่ต่างกัน รสชาติก็จะไม่เหมือนกัน มาอ่านกันเล่นๆกันครับว่าว่า อะไรที่ทำให้พื้นที่ ที่ปลูกกาแฟ ถึงเหมาะกับการปลูกกาแฟที่มีคุณภาพดีที่สุด
ปัจจัย สำคัญ ที่ต้องมี
ข้อแรก คือ ดิน ว่ากันว่า ดินภูเขาไฟ เป็นดินที่มีคุณภาพที่เหมาะกับการปลูกกาแฟที่สุด เพราะมีแร่ธาตุหลักที่พืชโปรดปราน เช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม และสังกะสี และดินภูเขาไฟยังสามารถเก็บน้ำได้ดี ทำให้หน้าแล้งก็ยังมีน้ำสำรอง
ข้อสอง ภูมิอากาศ ส่วนมากการผลิตกาแฟ มักจะผลิตกันในเขต bean belt (เป็นพื้นที่ที่ทอดยาวทั่วโลก อยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร ทางเหนือสุดขยายออกไปได้ถึง เม็กซิโกและพม่า ทางใต้ไปไกลสุดที่ บราซิลและแทนซาเนีย ตามภาพเลยครับ คือ ตรงตัว เข็มขัด จริงๆ)
แต่ในแต่ละภูมิภาคที่อยู่ในเส้น bean belt นี้ก็มีความต่างกันออกไปจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น บางพื้นที่จะมีภูเขาหรือเทือกเขาบัง ฤดูแล้งหรือฤดูฝนที่แตกต่างกัน
ข้อสาม ระดับความสูง อากาศที่เย็นกว่าสร้างความเป็นกรดได้มากขึ้นในกาแฟ(ไวน์ก็ด้วย) ซึ่งมีผลในการสุกของเมล็ดกาแฟ สุกเร็วสุกช้าต่างยังไง ก็สุกเหมือนกัน อืมมม เหมือสุภาษิตินี้ครับ ชิงสุกก่อนห่าม ค่อยๆเติบโตค่อยๆสุก จะทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นและซับซ้อนมากขึ้นครับ ดูมีคุณค่า
อ่ะเข้าเรื่อง ขายของเลยละกัน (อรุ่มเจ๊าะให้ตัวเองในกระจก 1ที)
CAFE DIRECT Terrior MACHU PICCHU กาแฟที่ปลูกบนเทือกเขาแอนดิสที่มีความสูง 1,800-2,000 เมตร ใจกลางอารยธรรมชนเผ่าอินคาโบราณ มาชู ปิกชู กาแฟ อาราบิก้า แท้ 100% รสชาติเข้มข้น หอมมมม ละมุน (คหสต. กลิ่นและรสชาติ ของกาแฟ Cefe Direct เทียบได้ใกล้เคียงกาแฟสดมากที่สุด ) และกักเก็บคุณสมบัติของกาแฟเอาไว้ได้อย่างครบถ้วนด้วยกระบวนการ ผลิตแบบ ลบ40องศา แถมยัง ออร์แกนิก 100% อีกด้วย โหหหห โหหหหห คุ้มหลายต่อ จริงๆเลย
แบบ whole bean ก็มีนะครับ
ขอจบบทความนี้เท่านี้เลยครับ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะครับ
ขอบคุณครับ
By N.K
อ้างอิง